ร่วมสืบสานตำนานชนเผ่า อาสาพัฒนา สำนึกรักบ้านเกิด เรื่องราววิถีชีวิตพึ่งพา บันทึกและถ่ายทอดโดย " คนศรีตระกูล " (เพราะโลกคือการแบ่งปัน)

"พญานาค" (อัศจรรย์วันออกพรรษา 2554)

09 ตุลาคม 2558

ประเพณีแซนโฎนตาเมืองขุขันธ์ ปี2558

        ประเพณีคือกิจกรรมที่มนุษย์ได้ร่วมกันคิดและสร้างขึ้นแล้วนำไปปฏิบัติ เพื่อเป็นกุสโลบายอันจะก่อให้เกิดความรู้รักสามัคคีมีน้ำใจไมตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รวมถึงให้มีจิตสำนึกที่ดีในความกตัญญูรู้บุญคุณของผู้มีอุปการะคุณในปัจจุบันและผู้ที่ล่วงลับดับขันธ์ไปแล้ว ทั้งนี้ประเพณียังคงไว้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเภทและอาจถูกปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงบ้างตามความเหมาะสมตามกาลสมัย

 "งานรำลึกพระยาไกรภักดี ประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี ประจำปี 2558" ระหว่างวันที่ 8 - 9 ตุลาคม 2558







        ปราชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอขุขันธ์ ส่วนมากเป็นกลุ่มคนชาติพันธุ์ซึ่งมีหลายเชื้อสายด้วยกัน เช่น ส่วย(กูย), เขมร, ลาว, เยอ มีวิถีชีวิตเป็นอยู่ที่เรียบง่าย พึ่งพาอาศัยกันฉันท์ญาติมิตร ผสมผสานกับการดำรงชีวิตแบบพึ่งพาธรรมชาติ โดยมีอาชีพหลักคือการทำการเกษตรตามแนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
         ส่วนประกอบสำคัญของงานครั้งนี้ มีหลายอย่างด้วยกัน มีการจัดตกแต่งขบวนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ประดับประดาพาหนะในการนำเครื่องเซ่นไหว้บูชา ด้วยศิลปะแนวอีสานใต้อย่างปราณีต บวกด้วยการแต่งกายอย่างเป็นเอกลักษณ์ของคนในถิ่นนี้


หัวใจหลักอีกอย่างหนึ่งคือ เครื่องเซ่นไหว้ ซึ่งกลุ่มคนชาวอีสานยังคงมีวิถีชีวิตที่ผสมผสานด้วยความเชื่อแบบโบราณและมีความเชื่อแบบวิถีพุทธ ความเชื่อเหล่านี้ยังคงยึดถือและปฏิบัติกันสืบต่อมา เพราะเป็นความเชื่อที่ประกอบด้วยเหตุผลแห่งความสุขทางจิตใจของตน
 
 
 


การแต่งกายแบบดั้งเดิมของกลุ่มคนชาติพันธ์มีลักษณะที่แตกต่างกันบ้างเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชนเผ่า การจัดเตรียมขบวนและเครื่องสักการะก็มีลักษณะที่เหมือนกันบ้างและแตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับแนวคิดของผู้นำชุมชนและประชาชนในถิ่นนั้น โดยส่วนมากจะผสมผสานให้ตรงกับวิถีชีวิตจริงของท้องถิ่นตนเอง





ผู้คนมากหน้าหลายตา ที่อยู่ในเขตพื้นที่และมาจากต่างจังหวัด รวมทั้งชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจมาร่วมชมขบวนกันอย่างคับคั่ง

 









ขณะที่ริ้วขบวนกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อเข้าสู่ปรัมพิธีบูชา ขบวนสายแห่งหยดน้ำที่เทลงจากฟากฟ้าก็พรั่งพรูลงมาอย่างไม่ขาดสาย ชโลมเนื้อกายของผู้คนที่กำลังเดินขบวน และปกคลุมทั่วเมืองขุขันธ์ สร้างความเย็นชุ่มฉ่ำให้กับบรรยากาศที่ก่อนหน้าดูร้อนอบอ้าว แต่ทว่า ขบวนแห่งสายน้ำมิได้ทำให้ผู้คนเกิดความแตกตื่นและหวั่นเกรงแต่อย่างใด เสมือนเป็นความปลาบปลื้มปีติยินดีจากทวยเทพที่ประทานพร










สีสันของกลุ่มเยาว์วัยทีมาร่วมขบวนทุกปี คือชุดแฟนตาซี เป็นที่ยินดีและสนใจของเด็กๆ อย่างมาก เพราะคนที่แสดงในขบวนมีแต่กลุ่มเด็กๆ ที่โชว์ความสามารถในการบังคับและทรงตัวรถปั่น











สีสันชวนมองที่ขาดเสียมิได้เลย (โดยเฉพาะหนุ่มๆ ทุกช่วงวัย) คือสาวงามแต่ละท้องถิ่น ที่ตกแต่งประดับประดาด้วยเครื่องแต่งหน้าทาปากพร้อมชุดงามๆ ที่ดูเป็นเอกลักษณ์ ร่วมขบวนในการนำเครื่องสักการะมาบูชาบรรพบุรุษ ...น่ารัก น่าชมไม่แพ้กันเลยทีเดียว







           งานประจำปีของเมืองขุขันธ์สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี สามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้คนที่พบเห็นและตราตรึงให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลก ก็ด้วยอาศัยพลังสติปัญญาและความสามัคคีของผู้นำและประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ร่วมด้วยช่วยกัน ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ สร้างขึ้นและจัดได้อย่างปราณีต
งดงาม พร้อมทั้งสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับเมืองขุขันธ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น